ก็อปปี้ของเพื่อน ดีกว่า เพราะตัวเรานั้น ไปดูดันไม่มีกล้องไปด้วย.. อยากบันทึกความทรางจำเก็บไว้ เอาแบบนี้ละว๊ะ…มันส์ดี
บรรยากาศทั่วไปก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม เหล่าแฟน มาลีฮวนน่า ตามเริ่มทยอยมา จับกลุ่มพูดคุย กันที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ สถานที่จัดแสดง
เปิดคอนเสริตด้วยหนังตลุง ศิลปะการแสดงที่งดงามของพี่น้องชาวใต้ โดยเนื้อหาที่สือออกมาคือ "มนุษย์อย่า......เอิด"
-ตามด้วยถ่อยคำเรียงร้อยของบทกวี ที่บอกถึงชีวิต ครูต้นแบบ ท่านที่ 1 คุณศิริวร แก้วกาญจน์ เป็นนักเขียน กวี
พระเอกของงานนี้ อาจารย์ ไข่ หรื คฑาวุธ ทองไทย นักร้องนำวง มาลีฮวนน่า
ครูต้นแบบ คนที่ 2 ฮิเดกิ มอริ กับเครื่องดนตรี แอคคอเดี้ยน ไพเราะมากๆ แกเป็นคนที่ให้บ้านเป็นที่อัดเสียงอัลบั้ม งานชุดแรก “บุปผาชน” ของวงมาลีฮวนน่า
ครูต้นแบบ คนที่3 ที่มาร่วมงาน อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี
บทเพลงที่ไพเราะมากมายของมาลีฮวนน่า ทยอยขับขานก้องดังทั้งหอประชุม
ตามมาด้วย ครูต้นแบบคนที่ 4 คุณ สุนทรี เวชานนท์ ศิลปินล้านนา
ครูต้นแบบคนที่ 5 มือกีต้าย์ แนวหน้าของเมืองไทยอีกท่านที่ขึ้นเวทีคืนนั้น พี่โอ้ โอฬาร พรหมใจ
ครูต้นแบบคนที่ 6 มาด้วยบทกวีที่งดงาม โดยคุณ เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ กวีซีไรต์ ประจำปี 2547
ครูต้นแบบคนที่ 7 คุณ ยืนยง โอภากุล หรือ แอ็ด คาราบาว นักร้องเพื่อชีวิตแถวหน้าของเมืองไทย
ครูต้นแบบคนที่ 8 คุณอารักษ์ อาภากาศ มาด้วยเพลงแม่นางลูกชาวนา
ครูต้นแบบคนที่ 9 พี่น้อย ดอกไม้บาน คาราวาน ครับ นี่ก็เยี่ยมยอด
ครูต้นแบบคนที่ 10 ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานเพื่อชีวิตบ้านเรา คุณสุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน มาด้วย เพลง" ดอกไม้ให้คุณ " เพราะที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลยครับ
ครูต้นแบบคนที่ 11 คุณมาโนช พุฒตาล ยอดฝีมือทางดนตรีอีกท่าน บนเวทีคืนนั้น เพลงแก เนื้อหาลึก สะท้อนสังคมสุดๆ
แกบอกว่าพื้นป่า ยังเขียวได้อีก ครูต้นแบบคนที่ 12 กวีรัตนโกสินทร์ คุณ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
ครูต้นแบบคนที่ 13 อ.ยงยุทธ คำศรี แกนนำวงด้ามขวาน มาด้วยเพลง กรรณิการ์
"ฟุตบาทแฟมิลี่" ครูต้นแบบคนที่ 14 คุณอี๊ด ฟุตบาธ หรือนามเต็มว่า อิทธิพล วาทะวัฒนะ มาพร้อม "ฟุตบาทแฟมิลี่" ลูกสาวทั้ง 2 คน น้องเปรียวผู้พี่ นามจริงว่า สรีวันท์ วาทะวัฒนะ ส่วนผู้น้อง สมรรถยา วาทะวัฒนะ หรือน้องปิ๊ก สุดยอดเยาวชน อีก 2คน ทางดนตรี เก่งมากๆ ประทับใจเลยผม เก่งมากเรียกเสียงปรบมือกึกก้องดังทั้งหอประชุม
ครูต้นแบบคนที่ 15 บุคคลสุดท้ายของคำคืนนั้น คุณชวาลา ชัยมีแรง ผู้ประพันธ์ เพลง แสงจันทร์ ครับ
" มันไหม......... เอาอีกไหม........ พวกเรา "
ถ้าใครได้เคยฟังเพลงจดหมายถึงพ่อ ตอนจบของเพลงจะมีเสียงเด็กแว่วมาว่า “สูงเนาะ ใครจะไปร้องถึงอะ”
วันนี้ หนูน้องทั้งสองโตเป็นผู้ใหญ่ที่มี degree ผ่านการประกวดดนตรีระดับโลกมาแล้ว
น้องเปรียว สรีวันท์ วาทะวัฒนะ เลือกเล่นไวโอลิน เพราะเหตุผลว่าชิ้นไม่ใหญ่ จะได้ไปช่วยพ่อ
ส่วนน้องปิ๊ก สมรรถยา วาทะวัฒนะ เรียนปิ๊กโคโล (ขลุ่ยสั้นชนิดหนึ่ง) เพราะมีขนาดเหมาะกับเด็กตัวเล็ก
บนเวที คุณอี๊ดเล่าว่า เล่นดนตรีเปิดหมวกหาค่าเรียนดนตรีให้ลูก ค่าเรียนสูงถึงชั่วโมงะ 500 บาท
ครั้งหนึ่งในระหว่างเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตกับเพื่อนๆในวงที่หาดใหญ่ ครั้งนั้นมีทั้งข่าวร้ายและข่าวดี
ข่าวร้ายคือรถอาจไปไม่ถึงหาดใหญ่
แต่ข่าวดีที่นำความปลาบปลื้มที่สุดมาสู่คุณอี๊ดผู้พ่อ คือข่าวลูกสาวซึ่งร่วมวง Dr. Sax Chamber Orchestra สามารถพิสูจน์ให้วงการดนตรีคลาสสิกระดับโลกเห็นว่า เด็กไทยก็มี ความสามารถไม่แพ้ประเทศที่มีรากทางวัฒนธรรมดนตรีคลาสสิค ด้วยการคว้ารางวัลรางวัลชนะเลิศ มาครอง
คุณอี๊ดเล่าว่า นั่งรถกันไม่กลัวอะไรเลย มาจนถึงหาดใหญ่ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น